การเมืองสังคม

อารัมภบท “ยุทธศาสตร์การพัฒนาเทศบาลเมืองแพร่”

อารัมภบท “ยุทธศาสตร์การพัฒนาเทศบาลเมืองแพร่”

พอมีเหตุการณ์ของสงครามรัสเซีย-ยูเครน เกิดขึ้น ก็ทำให้ผู้เขียนได้คิดว่าทัศนะคติโลกย่อมจะต้องมีการเปลี่ยนไป  เพราะดูเหมือนกับว่า  เมื่อเราจะถูกทำร้ายเราก็มาคิดป้องกันตัว  นั่นเป็นความคิดที่ผ่านมาในอดีตเราจึงมักจะได้ยินว่าเราจะไปรบกับใคร  ไม่เห็นใครมาตีหัวเลย   แต่ว่า ทัศนะคติของโลกใหม่ ที่จะส่งผลต่อความคิดในระดับมหภาคและจุลภาคในสังคม ก็คือ  แนวคิดที่ว่าเรื่องอะไรที่อาจจะเป็นภัยคุกคามหรือมีความวิตกกังวลว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้จะเกิดขึ้นในอนาคต  ซึ่งนั้นเป็นสิ่งสะท้อนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอุบัติขึ้นบนโลกใบนี้

มุมมองดังกล่าวทำให้ผู้เขียนคิดถึงอนาคตของเทศบาลเมืองแพร่ที่มันจะเกิดขึ้นต่อไป  เพราะเมื่อมานั่งคิดถึงภูมิศาสตร์ ที่ตั้งของเทศบาลเมืองแพร่  แล้ว  ถูกล้อมรอบด้วยตำบลหลายตำบล  เอาที่มีผลต่อการพัฒนาแล้วก็มี  ต.นาจักร  ต.ทุ่งกวาง   ต.เหมืองหม้อ  ต.ป่าแมต ต.เวียงทอง แต่ทั้งนี้ในอดีตที่ยังไม่มีถนนเลี่ยงเมือง  รถราก็วิ่งผ่านที่สี่แยกบ้านทุ่ง ต.ในเวียง หรือวิ่งผ่านเข้ามาในเทศบาลเมืองแพร่ทั้งหมด  เราจึงเขียนว่า  เวลคัม ทู  เทศบาลเมืองแพร่  ได้

แต่ปัจจุบันหลังจากมีการสร้างถนนเลี่ยงเมือง  ทำให้การสัญจรผ่านถนนเส้นดังกล่าวนี้ลดลงไปไม่น้อย  ในอดีตรถที่วิ่งขึ้นเหนือล่องใต้ก็จะต้องผ่านเขตเทศบาลเมืองแพร่  แต่ปัจจุบันหากไม่มีธุระปะปังจำเป็นแล้ว  ก็จะขับผ่านเลยไปไม่เข้ามาในเขตเทศบาลเมืองแพร่ไม่น้อยกว่า  20  ปี ได้มีโอกาสเข้าฟังกรประชุมของ   กรอ.เขต 8 ถ้าจำไม่ผิดนะ  ได้เห็นประธานได้กล่าวถึงถนนพหลโยธิน  หรือ  ถนนเลี่ยงเมืองแพร่ ที่เป็นส่วนหนึ่งของถนนสาย สอง  ร้องกวาง เด่นชัย  ว่ามันคับแคบ  เราจึงได้เห็นว่ามีการนำสายไฟฟ้าลงดินเพื่อให้ถนนมีความกว้างมากขึ้น และมีการพัฒนาด้านต่างๆที่เกี่ยวกับการเดินทางเป็นจำนวนมากเพราะว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนสายเอเชีย  ที่เชื่อมไปยังประเทศเพื่อนบ้านสายสำคัญสายหนึ่ง

ที่ผู้เขียนอยากกล่าวถึงในเรื่องของยุทธศาสตร์ดังกล่าวนี้  ไม่ใช่เป็นการกล่าวถึงการพัฒนาครอบคลุมทั้งหมดแต่ว่าเป็นการให้ความเห็นส่วนหนึ่งในสองเรื่องเท่านั้น  แต่อาจจะไม่เป็นที่โดนใจ  แต่บทความนี้เป็นเพียงข้อคิดเห็นเท่านั้น  พอแจงเป็นข้อๆดังนี้

ข้อที่หนึ่ง   เทศบาลเมืองแพร่  จะต้องแบ่งพื้นที่ในการพัฒนาออกเป็นสองส่วนทั้งคน และพื้นที่  หมายถึง  แบ่งสวนที่เป็นเมืองเก่าและส่วนที่ไม่ใช่เมืองเก่า  คือ  จะต้องมีพื้นที่เศรษฐกิจว่าจะทำมาค้าขายอะไรในปัจจุบันและในอนาคต  และตรงนี้นักเศรษฐศาสตร์จะต้องเข้ามามีบทบาทชี้นำและตอบสังคมให้ได้ในเรื่องของเศรษฐกิจว่ามันเป็นอย่างไรและจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต ทั้งในระดับท้องถิ่น  จังหวัด  ประเทศ และ โลก  ว่านมีการเคลื่อนตัวการค้าการขายอย่างไร  ขณะที่นักอนุรักษ์  ก็จะเข้าไปดูในเรื่องของเมืองเก่า  เพื่อสร้างให้เมืองเก่ามีชีวิต  ก็คือ  หมายถึงคนในท้องถิ่นข้ามาร่วมมือ   ที่ผ่านมา  กลับกลายเป็นว่า  นักเศรษฐศาสตร์ไปมีความรู้เรื่อง  อนุรักษ์มากเกินไปจนลืมบทบาทหรือหน้าที่ที่สังคมต้องการที่จะได้รับความรู้ทางด้านบริหารจัดการและเรื่องของเศรษฐกิจ  ส่วนราชการเป็นผู้ประสานไม่ใช่เป็นผู้ไปกอดคอกับนักธุรกิจ เพื่อเข้ามาดำเนินการด้านอนุรักษ์เสียเอง  จนทำให้หน้าที่ที่ตนเองจะต้องใส่ใจสนใจกลับถูกละเลย  จึงทำให้การพัฒนามันจึงไปแบบไม่มีทิศทางและไม่มีอนาคต

ข้อที่สอง  จากที่ได้เกริ่นไปแล้วว่า  เทศบาลเมืองแพร่  จะต้องมีเส้นทางที่เชื่อมไปบนถนนเลี่ยงเมืองและมีป้ายของเทศบาลเมืองแพร่  ติดตั้งอยู่ตรงนั้น   สถานที่แห่งแรกที่น่าจะมีการรวมกับเทศบาลเมืองแพร่  คือ  ต.เวียงทองบางส่วนเนื่องจากในอดีตเคยมีข่าวมาเหมือนกันในความคิดนี้   แต่นี่อาจจะเป็นเพียงความคิดเท่านั้น  ในอนาคตเราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรเพราะในปัจจุบันดูเหมือนการรักษาพยาบาลทาง ต.เวียงทองก็เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลแพร่

ข้อที่สาม  การเปิดโอกาสให้พื้นที บ้านสะบู  ต.เหมืองหม้อ  เข้ามาร่วมกับเทศบาลเมืองแพร่  และนี่ก็จะเป็นจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะว่าการขยายท่าอากาศยานแพร่  คงจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน  และอาจทำให้บ้านสะบู  อาจจะมีโอกาสเข้ามาร่วมกับพื้นที่เทศบาลเมืองแพร่  และนี่เป็นทางออกไปสู่ถนนเลี่ยงเมือง เพื่อออกไปเชื่อมกับโลกภายนอก  ตรงนี้จะทำให้เทศบาลเมืองแพร่  จะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาท่าอากาศยานแพร่(สาธารณูปโภค)

ความเห็นของผู้เขียนนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ในแผนการพัฒนาเทศบาลเมืองแพร่ ในอนาคต เนื่องจากเราจะไม่รู้ว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างไร  แต่เท่าที่เห็นพื้นที่เทศบาลเมืองแพร่  ก็มีการขยายตัวเต็มพื้นที่ และน่าจะมีการขยายตัวออกไปเพื่อเปิดมุมมองทางด้านเศรษฐกิจและสังคมใหม่ๆ  และถือเป็นเรื่องของมุมมองในอนาคตของผู้  เขียนเท่านั้น  หากกระทบต่อองค์กรใด บุคคลใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี่กันด้วย