ข่าวแพร่

เพลิงไหม้บ้านแคบหมูชื่อดังเมืองแพร่ทั้งหลัง เสียหาย 2 ล้านบาท(ไฮไลท์)

เพลิงไหมร้านแคบหมูชื่อดังเมืองแพร่ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท เจ้าของบ้านแคบหมูเผย ขณะเพลิงไหม้พาแม่ เมีย หลานสาวออกจากบ้านได้หวุดหวิด ค่าเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท

เมื่อเวลา 11.55 น.วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองแพร่ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลงไหม้ ที่บ้านเลขที่ 228/1  หมู่ 4 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่  ที่ตั้งอยู่ติดกับชุมชนบ้านใหม่-สวรรค์นิเวศน์ ของเทศบาลเมืองแพร่  ที่เป็นชุมชนที่มีบ้านเรือนอยู่หนาแน่น ทางเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯแจ้งให้รถดับเพิลงเทศบาลเมืองแพร่  เข้าร่วมในการดับเพลิงร่วมกับเทศบาลตำบลทุ่งกวาว และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตั้งอยู่ใกล้กัน จำนวนกว่า 10 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตกครึ่งไม้สองชั้น ประตูรั้วติดชื่อไว้หน้าบ้านว่า บ้านแคบหมูลุงพร เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว  มี  นายโชคคชัย  พนมขวัญ  นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ และ  นายพิชิต ปัทมาภรณ์พงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งกวาว  ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการควบคุมเพลิงโดยใช้เวลา 10 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากนั้น  พ.ต.ท.ประกิต  ผัดขัน  พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้สอบสวนบันทึกในที่เกิดเหตุ  พบว่าบ้านที่เกิดเหตุเพลิงไหม้  คือบ้านเลขที่ 228/1  หมู่  4 ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่  มี  นายจักรพันธ์  รัตนะพฤกษ์  อายุ 65 ปี  เป็นเจ้าของบ้าน  และ  เป็นเจ้าของธุรกิจทอดแคบหมูในชื่อ  บ้านแคบหมูลุงพร ขณะเกิดเหตุมีผู้อาศัยอยู่ในบ้าน 4 คน คือ นายจักรพันธ์  แม่ อายุ 85 ปี  หลานสาว อายุ 10 ปี และภรรยา
ส่วนสาเหตุ  นายจักรพันธ์  หรือลุงพร  เปิดเผยว่า  ขณะที่เกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้านร่วมกัน 4 คน แล้วได้ยินเสียงแตกคล้ายประทัดดังติดต่อกันหลายครังที่บริเวณหลังบ้าน  เมื่อเดินไปดูพบว่าเสียงดังกล่าวดังมาจากสายไฟฟ้าที่แตกออกมาเป็นประกายไฟและมีเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วร่วมอยู่ด้วย  ตนเองจึงได้รีบพยุงอุ้มแม่ที่ป่วยเกี่ยวกับหลังพร้อมกับภรรยาและจูงอุ้มหลานสาว อายุ 10 ขวบ  หนีออกจากบ้านได้อย่างหวุดหวิดโดยไม่ทันได้นำทรัพย์สินอะไรออกมาด้วย เนื่องจากเมื่อออกมาพ้นชายคาแล้วเหลียวหลังกลับไปดูบ้านพบว่าไฟได้ลุกท่วมจนไม่สามารถกลับเข้าไปเอาทรัพย์สินออกมาได้ เหตุเกิดขึ้นรวดเร็วมากมูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท
นอกจากนี้จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีบ้านเลขที่ 228/2  ที่เป็นนบ้านของหลานนายจักรพันธ์ที่ปลูกติดกันได้ถูกไฟลุกลามได้รับความเสียหายบางส่วนด้วยเช่นกัน ซึ่งอยู่ระหว่างประเมินความเสียหาย  ทั้งนี้ได้มีการแจ้งให้  นายจักรพันธ์ว่าจะมี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดแพร่ เข้ามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้นี้อีกครั้งหนึ่ง และสันนิษฐานเบื้องต้นว่าสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร