ศูนย์ราชการจังหวัดแพร่ กำหนดย้ายมาเร็วกว่าที่คิด
ศูนย์ราชการจังหวัดแพร่ กำหนดย้ายมาเร็วกว่าที่คิด
ที่ผ่านมาผู้เขียนมักจะไม่เห็นด้วยกับการย้ายศูนย์ราชการ ไปที่ตำบลน้ำชำ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เพราะคิดว่าไม่มีเหตุอันควรที่จะต้องย้ายออกไปและอาจจะทำให้บรรยากาศความคึกคักในเขตเทศบาลเมืองแพร่ หายไป และจะส่งผลต่อการค้าขายและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน แต่ว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป ทั้งได้ประสพกับตัวเองและพิจาณาด้วยหลักของเหตุและผลแล้ว การย้ายศูนย์ราชการเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ และต้องย้ายอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ประเด็นที่เราจะกล่าวคือว่า การไม่คัดค้านเนื่องจากว่า โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการนั้นไม่ได้มีการคัดค้านมาตั้งแต่แรก ก็หมายถึงว่าเป็นการเห็นด้วยกับโครงการไปโดยปริยาย และในตัวของโครงการมีการจัดซื้อจัดจ้างมากมายหลายรายการดังนั้นมันจึงมีผลประโยชน์เกิดขึ้นกับนักธุรกิจทั้งนอกและในจังหวัดแพร่ ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีในระยะสั้นแต่ระยะยาวแล้วภาคธุรกิจในเขตเทศบาลเมืองแพร่ คงจะเงียบลงไปไม่มากก็น้อยอย่างแน่นนอน และจะส่งให้เกิดการถดถอยในภาพรวมหากว่ามันเกิดกระทบต่อความคึกคักในการทำมาค้าขาย สรุปคือเมื่อเราไม่คัดค้ามาตั้งแต่แรกแล้วเมื่อมีการดำเนินการไปแล้วก็คงยากที่จะไม่เห็นด้วยในภายหลังสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ส่วนราชการรู้สึกมีผลกระทบคือเรื่องของที่จอดรถ เนื่องจากว่าการสร้างอาคารสถานที่ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ จะไม่มีเรื่องของการสร้างสถานที่จอดรถไว้รองรับ คือให้ไปจอดบนถนน หรือไปจอดหน้าบ้านของชาวบ้าน หรือทางเข้าออก หรือไปจอดในสถานที่ของหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงการใช้รถใช้ถนนของบ้านเราใช้พื้นที่เยอะและจะใช้พื้นที่เป็นกระจุก คือ รถจอดที่ไหนกัน รถขับขี่ไปที่ไหนกันก็เฮโลไปที่นั่น และมีแนวคิดการไปใช้บริการตามร้านค้า คือก็จะจอดที่หน้าร้านหรือใกล้ๆนั้นเลย แถม ใช้พื้นที่จอดเยอะคือ ด้านหนึ่งรถต้องว่างสองเมตร ด้านหลังต้องว่างสองเมตร มันจึงเกิดทำให้มีการจราจรติดขัด และสร้างความวุ่นวายให้พื้นที่นั้นๆ รวมไปถึงเกิดความขัดแย้งระหว่าง เจ้าของอาคารบ้านเรือนร้านค้ากับคนเอารถไปจอด
จุดหนึ่งที่เห็นว่ามีผู้นำเอารถมาจอดและวิ่งมากที่สุดคือ ระหว่างสี่แยกบ้านทุ่ง ไปถึงสี่แยกเหมืองหิตและสี่แยกบ้านทุ่งไปสี่แยกสันเหมืองหลวง หรือสี่แยกหลังตลาดสดบ้านทุ่ง ตรงนี้หลายคนต่างเฮโลมาจุดนี้ ลองนึกภาพดูว่า ช่วงระหว่างถนนทั้งสองสายนี้ เป็นช่วงสั้นที่สุดของเทศบาลเมืองแพร่ แต่ว่ามีการพยายามเอารถมาจอดในบริเวณนี้ บางทีก็ขวางหน้าร้านค้าเล็กๆ บางทีก็ไปขวางทางเข้าออก แต่ว่าเรื่องเหล่านี้แม้เจ้าของที่จะมีการอะลุ่มอะหล่วยกันไป แต่ว่าบางคนจอดหน้าร้านหรือจอดขวางทางเข้าออกบ้านเรือนอาคารของผู้อื่นเป็นเวลานานๆ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเรื่องของการย้ายศูนย์ราชการจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การใช้ถนนเป็นสถานที่จอดรถในย่านกลางใจเมือง ก็จะเกิดปัญหาตามมา หากว่าผู้อ่าน มีธุระปะปังให้หลีกเลี่ยงเส้นทางเหล่านี้เนื่องจากแออัดยัดเยียดแย่งที่จอดรถกัน ซึ่งการแก้ไขคือจำเป็นที่จะต้องย้ายหน่วยงานราชการออกไป และภาคธุรกิจก็คงจะต้องกระจายกันออกไปไม่มากระจุกอยู่ในที่เดียว
ผุ้เขียนเจอเองพอจะเข้าออกสำนักงานมีรถจอดบางทีถึงสองทุ่ม ก็ไปบอกว่าน่าจะพอแล้วคนอื่นจะได้ใช้พื้นที่บ้าง ก็โมโหโกรธา นั่นแสดงถึงว่ามันถึงเวลาจริงๆที่จะต้องย้ายศูนย์ราชการและภาคธุรกิจก็จะต้องเปิดการต้อนรับการลงทุนจากนายทุนนอกพื้นที่จังหวัดแพร่เข้ามาลงทุน เพื่อหามุมมองใหม่ๆในการดำเนินวิถีชีวิตของคนบ้านเรา เพื่อให้สอดคล้องกับสังคมโลกที่เปลี่ยนไป