จังหวัดแพร่ดันอาหารไทยสู่มหาอำนาจด้านอาหารโลก(คลิป)
จังหวัดแพร่ดันอาหารไทยสู่มหาอำนาจด้านอาหารโลก
จังหวัดแพร่ ร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน เปิด”โครงการ”นวัตกรรมนำเกษตรกรไทยสู่ครัวโลก” ภายใต้แบรนด์ชื่อ “Heaven Cuisine” ใช้เทคโนโลยีแช่อาหารด้วยไนโตรเจนเหลว ปรุงโดยเชฟระดับโลก ขณะที่ วรวัจน์ เอื้ออภิญกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ เผยเป้าหมายหวังให้ไทยเป็นมหาอำนาจทางด้านอาหารของโลกเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 9 กันยายน 2565 นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เดินทางมาเป็นประธาน เปิดโครงการ “”นวัตกรรมนำเกษตรกรไทยสู่ครัวโลก”ภายใตแบรนด์ชื่อ “Heaven Cuisine” ที่ กาดสามวัย สำนักงานเทศบาลเมืองแพร่ มี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการ นายเสรี ทรงศักดิ์ รองนายก อบจ.แพร่ นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ นายวีรกานต์ บุญตัน พัฒนาการการจังหวัดแพร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวของเข้าร่วมในพิธีเปิด
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญกุล อดีต รมว.ศึกษาธิการและผู้ผลักดันโครงการฯ กล่าวว่า เราพูดถึงการพัฒนาจังหวัดแพร่ว่าเป็นจังหวัดเล็กๆแต่มีทรัพยากรเยอะ แต่เราจะพัฒนาทรัพยากรของจังหวัดแพร่นี้อย่างไร เราจะแก้ไขปัญหาที่สะสมอยู่มาอย่างยาวนานได้อย่างไร จังหวัดแพร่มีผลผลิตทางการเกษตรเยอะ จังหวัดแพร่เป็นแหล่งปลูกพริกที่ใหญ่มาก มีหลายหมื่นไร่ ทุกปีมีผู้ประกอบการโรงงานมาซื้อเอาไปทำซอสพริก แต่ทุกปีก็มีผลผลิตตกค้างเหลืออยู่ทั้งจังหวัด ราคาตกลง เป็นอย่างนี้ตลอดเป็นปัญหาทุกปี
ผมปรึกษากับเชฟชุมพล แก้วไพร ถึงเรื่องของซอสพริกของจังหวัดแพร่ขึ้นมา ก็นำเข้ามาในโครงการนี้ผลประสบความสำเร็จดีมาก ลองทดสอบดูแล้วรสชาติไม่แพ้ซอสพริกไหนในประเทศนี้ แม้แต่ที่มีอยู่ต่างประเทศเอามาเปรียบเทียบกันของเราดีกว่า รวมถึงทุเรียนแพร่อร่อยที่สุดไปเก็บไมได้ก็นำมาพัฒนาเป็นข้าวเหนียวทุเรียน แช่เยือกแข็งไว้ มะม่วงข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวเปียกลำไย ก็ทำออกมารวมถึงกล้วยทีมีล้นตลาดตอนนี้ก็ทำออกมาเป็นกล้วยบวชชี
ปรกติถ้าได้ยินคำว่าอาหารแช่แข็งก็จะรู้สึกว่าคุณภาพไม่ดีเพราะแช่แข็งในระดับแค่แช่แข็งคือใช้ลมเย็นเป่ากว่าจะทำให้แข็งตัวต้องใช้เวลานาน น้ำในเซลอาหารมันออกมา อย่างเช่นเวลาที่เราเอาอาหารไปใส่ถุงพลาสติกแล้วไปแช่แข็งในตู้เย็น จะเห็นว่ามีน้ำแข็งออกมาเกาะคุณภาพก็ตกลง แต่ไนโตรเจนเหลวช่วยได้ เพราะจากการถนอมอาหารที่ต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงกว่าจะแข็งตัว แต่เมื่อใช้ไนโตรเจนเหลวจะเหลือไม่กี่นาทีอาหารก็แข็งตัวเพราะฉะนั้นความสดของอาหารเมื่อนำมาทานมันเหมือนใหม่ทุกประการ เป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยเห็นที่ไหน แล้วเมื่อนำมาทดสอบทุเรียน ลำไยก็มีการนำไปทดสอบ เมื่อละลายแล้วเหมือนเดิมเกือบร้อยเปอร์เซนต์เลยทีเดียว
เมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเราไปเห็นในต่างประเทศ ลำไยที่ส่งออกไป แต่พอไปอยู่ที่จีนก็ตาม อินโดนีเซียก็ตาม ส่งไปต่างประเทศคุณภาพมันดร็อปลง แม้ว่าเราส่งไปทางเครื่องบินก็ตาม แต่พอเรามาเปลี่ยนใช้ไนโตรเจนเหลวในการแช่แข็ง ต่อไปก็ส่งทางเรือได้เลย ต้นทุนในการขนส่งลดลงมหาศาลเพราะ อาหารเก็บยาวนานเป็นปีๆหรือหลายปีเลย ตรงนี้เป็นสิ่งแปลกใหม่ของประเทศไทยไม่เคยเกิดขึ้น นวัตกรรมตรงนี้ไม่ใช่เป็นอาหารที่แช่แข็งแต่คืออาหารเยือกแข็งเพราะมันจะเก็บรักษาได้ปีสองปีเพราะฉะนั้นโอกาสที่ประเทศไทยจะส่งอาหารไทยไปสู่ต่างประเทศเกิดแล้วที่จังหวัดแพร่
ที่บอกว่าอาหารไทยไปโด่งดังที่ต่างประเทศ ใช่ครับแต่ไปแต่ชื่อวัตถุดิบไม่ได้เป็นของบ้านเรา เป็นของประเทศเพื่อนบ้านทั้งนั้น แต่ของไทยไปแต่ชื่อถ้าเราไปทานผัดไทยในต่างประเทศน่าอายที่ใส่ซอสมะเขือเทศบ้างใส่ซอสพริกบ้าง ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์อาหารบ้านเรา เพราะฉะนั้นเมื่อพวกเราที่ไปอยู่ต่างประเทศเห็นอาหารไทยในต่างประเทศผิดหวังเพราะมันไม่เหมือนกับที่เราทานในบ้านเรา นี่คือปฐมบทที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่มหาอำนาจทางอาหารที่แท้จริง เพราะฉะนั้นโครงการนี้ที่เกิดขึ้นวันนี้เหมือนเป็นโครงการเล็กๆเกิดขึ้นที่จังหวัดแพร่แต่ผมเชื่อวันหนึ่งมันจะแพร่ไปทั้งประเทศและสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรไทย ให้กับผู้ประกอบการไทยทั้งประเทศยกระดับอาหารไปแก้ไขวิกฤตการอาหารขาดแคลนของโลก
ในส่วนของ นายวีรกานต์ บุญตัน พัฒนาการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า โครงการนี้เพิ่งเริ่มต้น กรมพัฒนาชุมชนได้สนับสนุนงบประมาณให้จังหวัดแพร่ ดำเนินโครงการยกระดับผลิตภัณฑ์โอท็อป ให้เป็นสินค้าพรีเมี่ยม ประเภทอาหารสู่สากล เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ตลอดจนมีการส่งเสริมการประชาสัมพันธ์เพื่อเพิ่มช่องทางด้านด้านการตลาดให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการ ในชื่อ”นวัตกรรมนำเกษตรไทยสู่ครัวโลก”
กรมพัฒนาชุมชน ได้ว่าจ้าง บริษัทวิสดอมลิ้ง เป็นผู้รับจ้าง กับ กรมพัฒนาชุมชน โดยโครงการนี้ใช้แบรนด์ในชื่อ “Heaven Cuisine” โดยฝีมือการทำอาหารของเชฟระดับโลก เชฟชุมพล แจ้งไพร มิชลีสตาร์ 2 ดาว ใช้เทคโนโลยีถนอมอาหารด้วยระบบไนโตรเจนเหลว ที่ผ่านมามีจังหวัดแพร่ มีรายได้จากผลิตภัณฑ์โอท็อปประเภทอาหาร ในปี 2564 จำนวน 1,497 ล้านบาทตั้งเป้าหมาย ในปี 2565 ไว้ที่ 1,604 ล้านบาท เพิ่ม 105 ล้านบาท โดยในวันที่ 10-11 กันยายน 23565 จะนำไปทดลองด้านการตลาดที่ ห้างบิ๊กซี และ ตลาดสวนจตุจักร กทม.เพื่อเพิ่มช่องทางด้านการตลาดให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการ ของจังหวัดแพร่ จำนวน 252 ราย