ชาวบ้านค้านฟื้นเหมืองแร่แบไรท์หลังอุตสาหกรรมแจ้งเตรียมทำประชามติเพื่อออกปทานบัตร
ชาวบ้าน บ้านอิมหมู่ 5 บ้านศรีใจ หมู่ 8 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ เดินทางยื่นหนังสือค้านอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ ที่เตรียมประชามติเพื่อฟื้นการทำเหมืองแร่แบไรท์ขึ้นมาใหม่ หลังชาวบ้านพบลำห้วยแม่สวก ลำห้วยแม้ต้า ตื้นเขินจากขี้แร่ในการทำเหมือง รวมทั้งเกิดมลภาวะเสียง ฝุ่นละออง กระทบต่อสิ่งมีชีวิตในชุมชน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 กุมพาพันธ์ 2565 นางสาวสมใจ ต๊ะเอ้ย ชาวบ้าน บ้านศรีใจ หมู่ 8 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ พร้อมกับชาวบ้านหมู่ 5 บ้านอิม ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ และ หมู่ 8 บ้านศรีใจต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ จำนวน 50 คน เดินทางไปยืนถือป้ายหน้าศาลากลางจังหวัดแพร่ เพื่อยื่นหนังสือต่อ นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ โดยมีการมอบหมายให้ตัวแทนจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว และได้ให้ นายธีรเดช ธรรมเนียมเปลี่ยน นายช่างรังวัดชำนาญงาน ปฎิบัติหน้าที่แทนหัวหน้ากลุ่มเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ เป็นตัวแทนที่จะพูดคุยกับชาวบ้าน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแพร่ ชั้นที่ 2
นายธีรเดช ธรรมเนียมเปลี่ยน นายช่างรังวัดชำนาญงาน ปฎิหน้าที่แทนหัวหน้ากลุ่มเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ในการดำเนินการประชามติเพื่อที่จะออกปทานบัตร ในการทำเหมืองแร่ ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ การจัดทำเป็นไปตามกฎหมายในการขออนุญาตขอปทานบัตรเหมืองแร่ โดยจะมีการจัดทำประชามติของประชาชนในพื้นที่ของ หมู่ 8 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ และวันนี้ชาวบ้านพื้นที่ได้เข้ามายื่นข้อเรียกร้อง12 ข้อ ต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่นั้นทาง อุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ จะให้คำตอบผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ภายใน 15 วัน ตามที่ชาวบ้านได้เรียกร้องมา
การขอปทานบัตรการทำเหมืองแร่นั้นจะต้องผ่านขั้นตอนในเรื่องของสิ่งแวดล้อมตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งผู้ขออนุญาตจะต้องพิจารณาว่าชาวบ้านมีความเดือดร้อนอะไรบ้างก็ต้องแก้ไขปัญหาตรงนั้นก่อนถึงจะผ่านคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในส่วนของประชาชนที่เดือดร้อนและไม่ได้เข้าร่วมในการประชามตินั้นเนื่องจากเรายึดเอาตาม ข้อกฎหมายของ พรบ.แร่ พ.ศ.2560 ที่จะทำประชามติชาวบ้านในรัศมี 500 เมตร
ขณะที่ นายจีรวัฒน์ ดวงประทีป ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ กล่าวว่า การแบ่งหมู่บ้านตามการปกครองของ หมู่ 5 และ หมู่ 8 ที่มีภูเขาอยู่ตรงกลาง การแบ่งไม่ได้แบ่งตามแนวสันเขา แต่แบ่งตามร่องน้ำ ทำให้ ภูเขาทั้งลูกอยู่ในพื้นที่ ของ หมู่ 8 แต่ลำห้วยอยู่ใน พื้นที่ของ หมู่ 5 เมื่อเหมืองแร่ตั้งอยู่บนภูเขาในพื้นที่ หมู่ 8 ส่วนตีนเขาเป็นแม่น้ำอยู่ในพื้นที่ของ หมู่ 5 ทำให้ น้ำที่ใช้ในการล้างแร่ ได้ไหลลงไปในแม่น้ำที่เป็นเขตของ หมู่ 5 ทำให้ลำห้วยตื้นเขินขี้แร่ลงไปทับถมในลำห้วยแม่สวก และลำห้วยแม่ต้า ส่งผลทำให้สิ่งแวดล้อมในบริเวณดังกล่าวเกิดความเสียหาย และเมื่อมีการประชามติที่จะให้ เหมืองแร่กลับเข้ามาดำเนินการอีกครั้งหลังจากหมดสัมปทานไปแล้ว ย่อมจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านหมู่ 5 และหมู่ 8
ก่อนนั้นช้างเดินผ่านลำห้วยแม่สวก หมู่ 5 จมจนไม่เห็นหลังช้าง พอมีการทำเหมืองแร่น้ำไหลลงลำห้วยจนตื้นเขินจนรถวิ่งผ่านลำห้วยได้ พอแหล่งน้ำตื้นเขิน ชาวบ้านก็ไม่มีน้ำใช้เพื่อการเกษตร เดียวนี้พอหยุดทำเหมืองแร่แบไรท์สภาพอากาศก็ดีขึ้น เมื่อก่อนมีเรื่องของฝุ่นและเสียงที่เกิดจากการทำเหมืองแร่ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะทำงานกันสามกะ พอชาวบ้านนอนกลางคืนก็จะสะดุ้งตื่นเพราะเสียงดังได้นอนวันละ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ยิ่งดึกเสียงยิ่งดังเพราะเหมืองแร่สร้างอยู่ใกล้ชุมชน
นางสาวสมใจ ต๊ะเอ้ย ชาวบ้าน บ้านศรีใจ หมู่ 8 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ กล่าวว่า จากที่สองหมู่บ้านมีสิทธิร่วมกัน ในการลงประชามติแต่วันนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าหมู่ 5 ไม่มีสิทธิ์ เมื่อบอกชาวบ้านว่าทำตามกฎหมายแล้วทำไมเมื่อ ปี 2563 หน่วยงานราชการการเข้าไปทำประชามติ ได้ทั้งหมู่ 5 และหมู่ 8 แล้วในปี 2565 ก็ได้รับจดหมายว่าจะมีการทำประชามติในเดือนเมษายน 2565 นี้ กลับตัดสิทธิของหมู่ 5 ออกไป แจ้งว่ามี หมู่ 8 เท่านั้นที่มีสิทธิ์ ถ้าบอกว่าทำตามตัวบทกฎหมาย แล้วก็กฎหมายอะไรของเขา คือปี 2563 มี การประชามติสองหมู่บ้าน พอมาปี 2565 มีหมู่เดียวที่จะทำประชามติ มันแปลกๆ มันดูมีเงื่อนงำ ทำให้เกิดความรู้สึกว่าสองมาตรฐานทำให้ชาวบ้านจึงต้องเดินทางมายื่นหนังสือ กับผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่วันนี้อีกครั้ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ดำเนินการเป็นสองมาตรฐานชาวบ้านก็จะร้องเรียนให้ถึงที่สุด ถ้าหากภายในจังหวัดนี้ ไม่ได้ยินเสียงของพวกเรา ไม่รับฟังเสียงของเรา พวกเราชาวบ้านก็จะร้องให้ดังและให้สูงขึ้นไปอีก เพื่อให้ผู้มีอำนาจรับฟังเสียงของเรา ถ้าใน 15 วัน แล้วได้รับคำตอบที่มันไม่ยุติธรรม เราก็จะเดินทางไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี และถ้าหากเข้าข่ายละเว้นการร้องเรียนจะครอบคลุมรวมถึงการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อเรียกร้องของชาวบ้านใน 12 ข้อ เป็นการเรียกร้องจากการเข้ามาทำเหมือแร่แบไรท์ใหม่ เนื่องจากการทำเหมืองแร่ครั้งก่อนไม่ได้มีการต่อปทานบัตรออกไป ในข้อเรียกร้องของชาวบ้านดังกล่าวยังระบุว่าการทำเหมืองแร่ครั้งก่อนยังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี ของป่าไม้ และดีเอสไอ ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 และต่อมามีการเข้าขอทำเหมืองแร่ใหม่อีกครั้ง เมื่อ พ.ศ.2565 มีการกำหนดการทำประชามติ จึงทำให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้ออกมาคัดค้าน และ ให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมจนทำให้เกิดกระทบกับสิ่งมีชีวิตรวมถึงป่าไม้ และลำห้วยที่ผ่านมาอีกด้วย