ปกครองจังหวัดแพร่ปฎิบัติการทำลายไร่ฝิ่น
เจ้าหน้าที่ปกครอง จ.แพร่ บูรณาการกับหลายหน่วยงานเข้าทำลายไร่ฝิ่นในพื้นป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ อำเภอร้องกวางและอำเภอสอง ยึดฝิ่นสดได้เกือบ 10 กก.คาดนำไปเสพและจำหน่าย
อำนวยการโดย นายสมหวัง พ่วงบางโพ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายวาทิต ปัญญาคม ปลัดจังหวัดแพร่ สั่งการให้ฝ่ายปกครองจังหวัดแพร่ ฝ่ายปกครองอำเภอร้องกวาง ฝ่ายปกครองอำเภอสอง บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.แพร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.323 กก.ตชด.32 (พะเยา) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สองและ สภ.ร้องกวาง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ ได้ออกปราบปรามการกระทำผิดกฏหมายในพื้นที่อำเภอร้องกวางและอำเภอสอง จังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2565 เวลา 16.00 น.
ที่อำเภอร้องกวาง เจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจยึดทำลายฝิ่นสดและแปลงเพาะปลูกพืชฝิ่นที่มีผู้เข้าไปลักลอบปลูกพืชฝิ่นในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เติก แม่ถาง แม่คำปอง หมู่ที่ 5 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง จ.แพร่ พบแปลงปลูกพืชฝิ่นจำนวน 1 แปลง พื้นที่ 0.65 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดฝิ่นสดไว้จำนวน 3 กก.เพื่อเป็นหลักฐานในการกระทำผิดกฎหมายแล้วจึงถอนตัดทำลายพืชฝิ่นดังกล่าว
ที่อำเภอสองเจ้าหน้าที่ ได้เข้าตรวจยึดทำลายฝิ่นสดและแปลงเพาะปลูกพืชฝิ่นที่มีผู้เข้าไปลักลอบปลูกพืชฝิ่นในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สอง หมู่ที่ 11 ต.เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ พบแปลงปลูกพืชฝิ่นจำนวน 5 แปลง พื้นที่ 2.3 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดฝิ่นสดไว้จำนวน 16.9 กก.เพื่อเป็นหลักฐานในการกระทำผิดกฎหมายแล้วจึงถอนตัดทำลายพืชฝิ่นดังกล่าว
จากการเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่ไม่พบผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ในที่เกิดเหตุดังกล่าว จึงได้ทำลายต้นฝิ่นด้วยการถอนตัดดังกล่าว ส่วนฝิ่นสดที่ยึดมาได้นำไปเป็นของหลักฐานในการดำเนินคดี และได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ร้องกวาง และ สภ.สอง ว่าผู้เข้าไปลักลอบปลูกพืชฝิ่นดังกล่าวมีความผิดตามประมวลกฎหมาย ยาเสพติด พ.ศ.2565 ฐาน ผลิตยาเสพติดประเภท 5(ฝิ่น)โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดประเภท 5(ฝิ่น)โดยไม่ได้รับอนุญาต
อีกทั้ง กระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐานก่อสร้าง แผ้วถางหรือกระทำประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต และ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรือก่อสร้าง แผ้วถ่าง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลักลอบปลูกพืชฝิ่นดังกล่าว เป็นการลักลอบปลูกในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมก็ไม่พบผู้กระทำความผิด แต่จากการตรวจสอบแล้วพบว่า ยังมีผู้สูงอายุที่เป็นชาวไทยภูเขายังมีผู้ที่ยังสูบฝิ่นอยู่จำนวนหนึ่ง สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะปลูกฝิ่นไว้เพื่อการเสพ แต่เนื่องจากการปลูกพืชฝิ่นในการจับกุมครั้งนี้มีพื้นที่ลักลอบปลูกเป็นบริเวณกว้างและมีพืชฝิ่นเป็นจำนวนมาก การปลูกฝิ่นเพื่อการจำหน่ายจึงเป็นประเด็นที่ไม่อาจตัดออกไปได้เช่นกัน